วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Regular Event No.1: First of 8th






Regular Event No.1: First of 8th

Clara Hamilton



วันที่ 8 สิงหาคม

(ยามเช้า)

วันนี้อากาศยามเช้าดูหม่นหมองอย่างน่าประหลาด ถึงกระนั้นมันคงไม่มีอะไรร้ายแรงยิ่งกว่าตอนที่ฉันต้มซุปทิ้งเอาไว้จนมันเกือบไหม้อีกแล้วล่ะ วันนี้วันที่ 8 สิงหาคม เธอจำได้ใช่ไหม แน่นอนว่าเราทั้งคู่จดจำได้เป็นอย่างดี วันนี้เป็นวันที่ลูกชายของฉันจะส่งจดหมายมาหา อดทนรอแทบไม่ไหวเชียว

ฉันตื่นมาตั้งแต่เช้ามืด บางครั้งการเป็นโรคคนแก่ตื่นเช้าก็น่าเบื่อหน่าย เธอน่าจะได้เห็นว่ารอบบ้านของเรานั้นเงียบขนาดไหน กว่านกพวกนั้นจะตื่นตามหน้าที่ก็เลยมาเกือบสามสิบนาที แหม น่าตีจริงเชียว เอาเถิด อย่างน้อยคุณไฮดี้ก็ยังตื่นมาเป็นเพื่อนฉัน นับเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง หลังจากย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองดีร์ซาด

ระหว่างที่เขียนอยู่ตอนนี้ ฉันกำลังรอให้ขนมปังสุก นอกเหนือจากทำอาหารแล้วฉันเองก็ชอบเขียน แต่หลังๆการเขียนสำหรับฉันค่อนข้างลำบากมากขึ้น กว่าจะเพ่งสายตาเขียนให้จบได้ก็เหนื่อยมาก ฉันคงจะแก่เกินไปแล้วจริงๆ ดังนั้นฉันเลยต้องหาเวลาว่างมาจดบันทึกอย่างนี้ แต่ฉันจะพยายามเขียนให้ต่อเนื่องก็แล้วกัน

อา...ใช่ ฉันเคยเขียนประโยคนี้แล้วนี่นา เมื่อเดือนก่อนน่ะ

ช่างเถอะ ฉันต้องไปทานมื้อเช้าก่อน หลังทำงานเสร็จจะกลับมาเขียนใหม่

(ยามบ่าย)

            แสงแดดกำลังพอเหมาะ คุณไฮดี้เลยออกไปนั่งอาบแดดเล่น ก็อย่างที่เธอชอบทำนั่นแหละ มันดีจริงๆที่คุณไฮดี้ชอบทานพวกหญ้าตามดิน ฉันเลยไม่ต้องลำบากมานั่งถอน การลุกนั่งมันปวดหลังจริงๆ

            วันนี้ฉันเริ่มต้นงานของฉันด้วยการทำความสะอาดภายในบ้าน ช่วงบ่ายจึงค่อยออกไปดูแลต้นไม้ในสวนต่อ ปกติแล้วฉันไม่เคยปล่อยให้บ้านรกหรอกนะ ถึงแม้ฉันจะอยู่คนเดียวก็ตาม แต่จู่ๆฉันก็นึกขึ้นได้ว่าห้องเก็บของหลังบ้านนั้นไม่ได้ทำความสะอาดมาหลายอาทิตย์แล้ว ดูเหมือนพื้นไม้ที่บ้านฉันจะรักฝุ่นผงมากเป็นพิเศษ พอเปิดออกดูก็เห็นหยากไย่เริ่มก่อสร้างรังบนเพดาน ลำบากต้องไปหาเก้าอี้มายืนปัด

            กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้น ฉันได้ยินเสียงเรียกให้ไปรับจดหมายพอดี จดหมายของลูกชายฉันมาถึงแล้ว! ฉันจะนำจดหมายฉบับนี้ไปอ่านที่หลุมศพของตาแก่สามีฉันก่อน แล้วค่อยไปนัดตรวจของคุณหมอต่อ แล้วจะกลับมาเขียนอีกครั้ง

(ต่อ)

            ฉันกลับมาแล้ว กว่าจะเดินถึงบ้านก็มืดค่ำ

เรามาพูดถึงคุณหมอบ้าง บางทีเธออาจจะจำได้ ฉันเขียนหลายเรื่องมาก แต่ไม่รู้ทำไมจำไม่เคยได้สักที...เขาเป็นผู้ชายอยู่คนเดียว อายุอานามก็น่าจะใกล้สี่สิบแล้วกระมัง ฉันเองก็เคยเห็นมามาก ผู้ชายโสดอยู่คนเดียวมักมีอยู่สองประเภทคือ พวกที่ดูแลตัวเองได้ กับ พวกที่ดูแลตัวเองไม่ได้ สำหรับฉัน...เขาอาจจะเป็นประเภทหลัง

เขาไม่ใช่ผู้ชายเหลวแหลกอะไรหรอกนะ ถึงแม้เวลาฉันไปตรวจ จะได้กลิ่นบุหรี่ติดตัวเขาก็เถอะ แต่สำหรับคนไข้แล้ว เขาก็ยังเป็นหมอที่ดี อีกทั้งอายุเขาก็น่าจะใกล้เคียงกับลูกชายของฉัน เลยอดเป็นห่วงไม่ได้ วันนี้ฉันจึงนำพายแอปเปิ้ลที่ฉันทำเมื่อเช้านี้กับพวกแยมอะไรอีกนิดหน่อยไปฝาก พวกผู้ชายน่าเป็นห่วงเรื่องอาหารการกินเสมอ ตาแก่ สามีของฉันก็เหมือนกัน นอกจากบุหรี่แล้วเขาก็นึกอะไรไม่ค่อยออกอีก ถ้าเขายังอยู่ ฉันจะตีให้หัวแตก

ฉันพับจดหมายของลูกชายเก็บไว้ในลิ้นชัก ตอนนี้ควรนอนได้แล้ว วันพรุ่งนี้จะตื่นขึ้นมาอ่านทวนอีกครั้ง


วันที่ 9 สิงหาคม

(ยามเช้า)

            จดหมายของลูกชายฉันหายไป

            ฉันเดินตามหาทั่วทั้งบ้าน จำได้ว่าเมื่อคืนฉันเป็นคนใส่ไว้ในลิ้นชักเองกับมือ เธอจำได้ใช่ไหม เรารู้เรื่องนี้ดี เพราะฉันเขียนบันทึกไว้นี่นา น่าแปลกใจจัง หรือบางทีฉันอาจจะลืมไว้ที่ไหนสักแห่ง แล้วจะลองตามหาดู

(ยามบ่าย)

            หาจนทั่วบ้านแล้วก็ยังไม่เจอ คุณไฮดี้ลองหาในสวนก็ไม่พบ แต่จู่ๆก็มีคนเรียกให้ฉันไปเอาจดหมาย มันน่าแปลกใจตรงไหน เธอรู้ไหม... ตรายางผนึกซองยังไม่ได้ถูกแกะออกไงล่ะ เราทั้งสองคนงุนงงมาก ทั้งฉันทั้งคุณไฮดี้นั่นแหละ ทีแรกฉันยังนึกว่าตัวเองทำหล่นนอกบ้านแล้วมีคนนำมาคืนเสียอีก

            เนื้อหาทั้งหมดในนั้นยังคงเหมือนเดิมกับที่อ่านเมื่อวาน ฉันงุนงงมากทีเดียว แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว วันนี้เลยไปนั่งที่หลุมศพสามีอีกครั้ง ส่วนอาหารมื้อเย็นวันนี้เป็นสตูกระต่ายกับแซนวิสมะเขือเทศ



วันที่ 10 สิงหาคม?

(อากาศเดิมๆ)

            จดหมายหายไปอีกแล้ว แต่พอตอนบ่ายก็ยังโดนเรียกให้ไปรับจดหมายเหมือนเมื่อวานและสองวันก่อน ทุกอย่างเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ รู้สึกเหมือนตัวเองหาทางออกไปไหนไม่ได้

            ฉันถูกตอกย้ำความเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ ตอนเย็นเพื่อนบ้านของฉันทักว่า ทำไมวันนี้ไม่ไปหาคุณหมอแล้วล่ะ ฉันแปลกใจมาก ก็ฉันเพิ่งไปเมื่อสองวันก่อนนี่นา! ถึงแม้เพื่อนบ้านจะบอกว่าสองวันก่อนฉันไม่มีนัดกับหมอสักหน่อย เธอกลัวว่าฉันจะลืมไปหาหมอ แต่ฉันก็ยังคิดว่าตัวเองไม่สมควรไปอยู่ดี

            ฉันตัดสินใจไปที่โรงเก็บของ เราคงจำกันได้ใช่ไหม ที่ที่ฉันเพิ่งทำความสะอาดเมื่อสองวันก่อน

            ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม ทั้งฝุ่นเขรอะหนาและหยากไย่

            ฉันรู้สึกสิ้นหวังมาก นี่ฉันต้องคอยทำความสะอาดอีกสักกี่ครั้งนะ?


วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

[8thAug] Clara Hamilton

แดคร๊าาา >,,,,<
ขร๋อรองเร่นดร้วยครนนร๋ะคร๊ะ
ฝรากตรัวดร๊วญน๊ะ
.
.
.
.








*แก้ไขวันที่ 21 ส.ค. เนื่องจากอาม่าแก่แล้ว เลยเบลอๆ*

ฝ่ายที่ต้องการลง : Protector





นุ้งบี้ข๋อโทดดร๊วญน๊ะคร่ะ ครือดรอวววววววอิ้งส์มั่ยเก่ง




ชื่อ-นามสกุล : Clara Hamilton

อายุ : 74 ปี
เพศ : หญิง
ส่วนสูง/น้ำหนัก : 154 / 40

ลักษณะภายนอกอื่นๆ : หญิงชรารูปร่างเล็กผู้มีผิวหนังเหี่ยวย่น ผมสีเทาสั้นและหยิกงอ ผิวขาวและดวงตาเขียวหม่นที่ถึงแม้จะฝ้าฟางตามเวลาไปบ้างแต่ยังมองเห็นอยู่แม้จะไกลๆก็ตาม(...)
ที่หัวไหล่ด้านซ้ายของหล่อนมีรอยสักรูปหมาป่าและรอยนูนแผลเป็นที่เกิดจากของมีคมบาดซ่อนอยู่ ไม่ค่อยเปิดให้ใครดูมากนัก ดูเผินๆเป็นหญิงชราบอบบางผู้ไร้เรี่ยวแรง ถึงกระนั้นคลาร่ายังสามารถยกของหนักได้ด้วยตัวเอง แม้ว่าหลังจากนั้นจะเกิดอาการปวดเอวบ้างก็ตามที การเดินเหินในระยะทางสั้นๆสามารถทำได้ แค่ทุลักทุเลไปสักหน่อย ถ้าหากจำเป็นต้องเดินทางไกลๆก็ต้องใช้ไม้เท้า โดยทั่วไปแล้วยังเป็นหญิงสุขภาพดีอีกนานและไม่มีท่าทีจะแก่ตายได้ง่ายๆ มีแค่โรคคนแก่นิดหน่อยเป็นระยะๆ

อาชีพ : แม่บ้าน / อดีตนักผจญภัย
ลักษณะนิสัย :
-คลาร่ามีนิสัยที่ค่อนข้างนิ่งและเคลื่อนไหวช้าในทุกๆเรื่อง คุณอาจต้องนั่งรอเป็นชั่วโมงเพื่อที่จะให้คลาร่ากินข้าวให้หมดชาม
-สุภาพ เรียบร้อย ไม่ช่างพูด
-ดูเป็นหญิงชราผู้บอบบาง แท้จริงแล้วนางสามารถเอาไม้เท้าเคาะหัวคุณแตกได้
-ใจดี รักเด็ก ชอบช่วยเหลือ เอื้อเฟือแบ่งปันของกับคนอื่นเสมอ
-ชอบอยู่เป็นสังคมใหญ่ ไม่ชอบแยกเดี่ยวเท่าไร ตามประสาคนแก่ขี้เหงา
-เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ชอบออกมาเดินเล่นนอกบ้านรับแสงแดดบ่อยๆ
-แอบเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่ ดื้อดึงกับขนบธรรมเนียมเดิมเล็กน้อย
-เคร่งศาสนามาก ต้องไปโบสถ์์ทุกวันอาทิตย์ ถ้าไม่ได้ไปจะสวดอธิษฐานที่บ้านแทน
-ถ้าไม่พอใจจะทำหูทวนลม แสร้งว่าไม่ได้ยิน

อื่นๆ :
-ชอบจดบันทึกเรื่องต่างๆลงสมุดโน๊ต
-คนแก่แล้ว กินเนื้อยาก... ส่วนใหญ่ชอบกินผัก
-สกิลแม่บ้านแม่เรือนคงใกล้จะระดับ max




ประวัติของตัวละคร :

สมัยเด็ก - ลูกสาวเศรษฐีชาวสเปน ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีและประคบประหงบแบบสุดๆ ชนิดที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ ด้วยความที่ถูกสอนมาโดยครูชาวอเมริกันผู้มีความคิดสมัยใหม่ คลาร่าจึงมีความคิดด้านสตรีนิยมไม่น้อย นั่นทำให้คลาร่าเชื่อว่าผู้หญิงก็สามารถทำอะไรหลายอย่างได้เช่นเดียวกับผู้ชาย และด้วยความอยากรู้ปนดึงดันที่จะเรียนเหมือนพี่ชาย จึงได้รับการเรียนหลากหลายด้าน เมื่อความอยากรู้อยากเห็นโลกมีมากขึ้นก็สะพายข้าวของออกเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วตั้งแต่ตอนอายุ 18 ปี หรือเรียกง่ายๆว่าหนีออกจากบ้านนั่นเอง

สมัยวัยรุ่น - แม่หญิงคลาร่า ฮามิลตันในวัยคึกคะนองออกเดินทางไปทั่ว เก็บสะสมของที่ระลึกชิ้นเล็กชิ้นน้อยใส่กระเป๋าหนังและเขียนประสบการณ์การผจญภัยลงในสมุดบันทึกส่วนตัว กระทั่งเดินทางมาถึงเมืองดีร์ชาดเมื่ออายุราวๆ 23 ปี กลายเป็นหญิงถึกผู้ไม่ยอมแต่งงาน(ในระหว่างนี้มีการติดต่อกับทางบ้านแล้ว) จากเดิมที่กะจะอยู่พักเพียงชั่วคราวก็มีเหตุต้องอยู่ยาวๆ เพราะเกิดมีปากเสียงกับผู้ชายชาวเมืองของที่นี่เข้า จนอีกฝ่ายเลือดตกยางออก ด้วยความสำนึกผิด คลาร่าตัดสินใจอยู่ดูแลจนกว่าแผลของเขาจะหาย ขอสมมุติว่าชื่อนายก. จากที่ทะเลาะกันจนแทบจะต่อยกันตลอดเวลา เมื่อเวลาผ่านไปราวๆ 5 ปี คลาร่าและนายก.ก็แต่งงานกันด้วยความงุนงง แต่ยังคงใช้นามสกุลตัวเองด้วยเหตุผลบางประการและไม่ได้จดทะเบียนสมรส

สมัยมนุษย์ป้า - นายก.ผู้เป็นสามีนั้นมีอาชีพหลักเป็นช่างไม้ ในหลังบ้านจึงมีอุปกรณ์การช่างกองเต็มไปหมด คลาร่าผู้อยากรู้อยากเห็น(อีกแล้ว)เองก็ฝึกทักษะนี้มาจากสามีเช่นกัน
ครอบครัวเริ่มขยายกว้างเมื่อนางสาวค.และนายก.มีลูกชายด้วยกันทั้งหมด 2 คน แต่น่าเสียดายที่ลูกชายคนเล็กเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อตอนอายุ 7 ขวบ หลังจากนั้นอีกราวๆ 10 ปี(คลาร่าอายุประมาณ 50)
ลูกชายคนโตเกิดทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อพยพคนหนึ่งจนต้องย้ายออกจากเมืองไป ถึงกระนั้นก็ยังส่งจดหมายรายงานชีวิตตัวเองมาหาที่บ้านทุกๆเดือนจนถึงตอนนี้

ปัจจุบัน - คุณก. สามีชิงตายก่อนตอนคลาร่าอายุ 65 นับแต่นั้นเลยต้องอาศัยอยู่คนเดียวในบ้าน ปลูกผักเลี้ยงตัวเองไปวันๆ เพราะทรัพย์สินส่วนตัวเดิมก็มีเหลือพอให้อยู่กินพอประมาณ ไม่เดือดร้อนแต่อย่างใด
ในวันว่างมักเข้าโบสถ์ไปฟังเทศน์ตามประสาคริสต์ที่ดี

ทุกๆวันที่ 8 จะมีจดหมายมาจากลูกชายที่อยู่ห่างไกลเสมอ คลาร่ามักนำจดหมายไปนั่งอ่านที่หลุมศพสามีประจำ แต่ดูเหมือนครั้งนี้จะวนจนไร้ที่สิ้นสุดซะแล้วสิ






ชนิดของสัตว์แห่งจิต : เต่ายักษ์กาลาปากอส ... ต้วมเตี้ยม ทว่ากระดองแข็งแรงและแสนอึด

เต่า.jpg

(ที่มา )

ชื่อ : ไฮดี้
เพศ : เมีย
ขนาด : 140 กิโลกรัม ห้ามอุ้ม ชนิดกระดองโค้ง*
ความเข้ากันได้กับเจ้าของ : ในระดับดีเยี่ยม คือช้าไปด้วยกัน เกาะติดกันตลอดเวลา
สาเหตุที่มีสัตว์จิตเป็นชนิดนี้ : เมื่อสมัยยังออกเดินทาง อาศัยขึ้นเรือพ่อค้าที่แวะพักตรงเกาะกาลาปากอส รู้สึกประทับใจกับความแปลกประหลาดของเต่ายักษ์อย่างมากเลยจำฝังใจ…
คุณไฮดี้ผู้เชื่องช้า เวลาอยู่กับเจ้าของก็ช้าคูณสอง ดูเป็นคู่หูคนแก่ที่น่ารักน่าเอ็นดูมาก

*เต่ากาลาปากอสมีหลากหลาย สำหรับชนิดกระดองโค้ง เป็นเต่าในแถบที่มีพืชอุดมสมบูรณ์ตามพื้น ทำให้ไม่ต้องยื่นคอขึ้นสูงและมีหลังโค้งมนเหมาะกับการมุดลงใต้กิ่งไม้มากกว่า คาร์แรคเตอร์สำหรับคลาร่าคือลูกสาวคุณหนูผู้ไม่เคยผ่านความยากลำบากและมีชีวิตเรียบง่าย เรื่อยเปื่อย

อ้างอิงข้อมูลเต่า :
• http://library.sandiegozoo.org/factsheets/galapagos_tortoise/tortoise.htm
• http://en.wikipedia.org/wiki/Gal%C3%A1pagos_tortoise


.
.
.
.
คร่าาา NL หรึ GL ก๋ดรั๊ยณ๊ค๊ นุ้งบี้จร่ะพญาญาม
ติดต่อได้ทาง 
1. มายลริตเทิ้ลเบิ้ด(twitter) : https://twitter.com/8thAug_Clara
2. มายซรับซะไกร่(skype) : @takoyaki.cocoa

ท่าย๋ากติดต่อนุ้งบี้ แอ๊ดHi5มาจร๋ะวัยทรี้ซรุ๋ดคร๊
บั๋ยส์จร้าาาาาา ><